“ช่างภาพงานแต่งงาน” หรือ “Wedding Photographer” ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพสร้างรายได้ในฝันของใครหลายคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ เพราะเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวความรักและเป็นผู้เก็บบันทึกความสุขความทรงจำในวันสำคัญของคู่บ่าวสาว อีกทั้งยังเป็นอาชีพที่ช่วยสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ตั้งแต่หลักหมื่นไปถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์ที่สั่งสมกันมา ล่าสุด บิ๊ก คาเมร่า ได้จัดกิจกรรมเวิร์คช้อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “ดิ แอดวานซ์เซด ออฟ พรีเมียม เอ็กซ์พีเรียนซ์ โฟโต้เวิร์คช้อป” (The Advanced of Premium Experience Photo Workshop) ในหัวข้อ “Let Me Tell Your Story” เอาใจคนรักการถ่ายภาพแนวโรแมนติก ได้มาร่วมเรียนรู้ เทคนิค และเคล็ดลับการถ่ายภาพจาก “วิน-ภูริต เนติมงคลชัย” หรือที่ใครหลายคนมักจะรู้จักในนาม Vin Buddy เจ้าพ่อ Candid Wedding (แคนดิด เว้ดดิ้ง) ของเมืองไทย กับประสบการณ์การถ่ายภาพเว้ดดิ้งมาแล้วกว่าพันคู่
นายภูริต เนติมงคลชัย หรือ Vin buddy เจ้าของฉายาเจ้าพ่อแคนดิดเว้ดดิ้งของเมืองไทย ผู้มีประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพงานแต่งงานให้กับเหล่าเซเลบริตี้และศิลปินดาราชื่อดังหลายต่อหลายท่าน เล่าว่า “สำหรับผู้ที่กำลังมองหาอาชีพการถ่ายภาพงานแต่งงานเพื่อสร้างรายได้ หรือต้องการหาเทคนิคใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายเว้ดดิ้งให้ดูว้าวถูกใจลูกค้า นอกเหนือจากความรักในสายอาชีพนี้ที่ต้องมีแล้ว เรื่องของเทคนิค ชั้นเชิง รวมถึงประสบการณ์ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่างภาพต้องหมั่นฝึกฝน เพื่อให้เกิดทักษะและความชำนาญ จนเกิดเป็นสไตล์หรือรสนิยมเฉพาะตัวในการถ่ายภาพ
โดยเริ่มหัดใช้โซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์ด้วยการ “ส่องรูป” ผลงานของช่างภาพที่เป็นไอดอลหรือเป็นช่างภาพชื่อดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่าน เฟสบุ๊ค (Facebook) อินสตาแกรม (Instagram) หรือ ทวิตเตอร์ (Twitter) เป็นต้น เพื่อศึกษามุมมอง สไตล์ หรือเทรนด์ต่างๆ ซึ่งการทำสิ่งเหล่านี้บ่อยๆ เป็นประจำจะทำให้เกิดการสร้างมาตรฐานหรือรสนิยมเฉพาะตัวในการถ่ายภาพของเรา
อีกวิธีคือ “การเลียนแบบ” ฟังดูอาจเป็นการขโมยไอเดียหรือลิขสิทธิ์ทางความคิด แต่ในทางกลับกันการเลียนแบบการถ่ายภาพหนึ่งภาพจะทำให้เราเกิดกระบวนการทางการเรียนรู้ถึงเทคนิค วิธีการต่างๆ อาทิ ภาพนี้จะต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์เท่าใด จัดแสงอย่างไรถึงจะได้ภาพออกมาในลักษณะนี้ เป็นต้น อีกทั้งระหว่างทางที่กำลังถ่ายภาพอยู่นั้นก็อาจจะมีตัวแปรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ลม แสงธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งสัตว์ต่างๆ เข้ามาทำให้องค์ประกอบของภาพเปลี่ยนไป ส่งผลให้ภาพที่ถ่ายออกมาไม่เหมือนกับต้นแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งบางภาพอาจจะถ่ายออกมาได้ดีกว่าก็เป็นได้
นอกจากนี้เรื่องของการฝึกฝนฝีมือแล้ว การจะถ่ายภาพเว้ดดิ้งให้ออกมาสร้างสรรค์และสมูท (smooth) มีเรื่องที่ควรคำนึงด้วยกันหลายเรื่อง แบ่งออกเป็น “การถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้ง” สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การ “Break the Ice” หรือ “การละลายพฤติกรรม” ทำลายกำแพงที่กั้นระหว่างช่างภาพและคู่บ่าวสาวลง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และเป็นกันเอง จำเป็นต้องอาศัยหลักจิตวิทยาเข้ามาช่วย อาทิ การชวนคุยในสิ่งที่เขารักหรือชื่นชอบ อธิบายรูปแบบหรือโชว์ผลงานเพื่อให้เห็นแนวทางการถ่ายภาพ เป็นต้น เพื่อให้เมื่อถึงเวลาถ่ายภาพแล้วคู่บ่าวสาวจะไม่เกร็ง ไม่เคอะเขิน ภาพถ่ายที่ได้จะมีความเป็นธรรมชาติ ต่อมาคือเรื่องของ “สถานที่” ซึ่งเป็นการคิดร่วมกันระหว่างช่างภาพและคู่บ่าวสาว โดยเริ่มจากการนำเสนอภาพกว้าง อย่างภูเขา ทะเล น้ำตก ในเมือง หรือบางครั้งคู่บ่าวสาวอาจมีสถานที่ในใจอยู่แล้ว เมื่อเลือกสถานที่กันเรียบร้อย ช่างภาพก็ต้องมาทำการบ้านเพิ่มเติมโดยการกำหนด “สถานการณ์” ของการถ่ายภาพ ด้วยการวางไอเดียหรือคอนเซ็ปต์ที่จะใช้ โดยยึดหลักสำคัญที่ว่า ถ่ายอะไร ถ่ายให้ใครดู และจะถ่ายอย่างไร ในการถ่ายภาพทุกครั้ง
สำหรับการถ่ายภาพใน “วันฉลองมงคลสมรส” สิ่งที่ช่างภาพจำเป็นต้องงัดออกมาใช้คือ “ประสบการณ์” ถือเป็นเรื่องสำคัญและเป็นการชี้วัดความเป็นมืออาชีพ เพราะประสบการณ์จะทำให้เราสามารถคาดเดาสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่อไปได้ และจะทำให้รู้ทันทีว่าจะต้องเตรียมรับมือหรือถ่ายภาพสถานการณ์นั้นอย่างไร เช่น ลำดับต่อไปเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวอาจจะร้องไห้ ดังนั้นต้องไปดักรอมุมด้านหลังเพื่อให้เห็นภาพน้ำตาแห่งความประทับใจ โดยมีกลุ่มผู้ร่วมงานเป็นฉากหลัง หรือซีนต่อไปเจ้าสาวจะโยนดอกไม้ ช่างภาพอาจจะต้องเตรียมเก้าอี้ เพื่อให้ได้ภาพมุมสูงและมุมกว้างเห็นแอ็คชั่นการโยนได้อย่างชัดเจน เป็นต้น
ซึ่งภายในงานกิจกรรมเวิร์คช้อปครั้งนี้ บิ๊ก คาเมร่า ได้เนรมิต The Apothecary (ดิ อะพอธธิคารี่) สถานที่จัดงานแต่งงานร่วมสมัยสไตล์ยุโรป ให้เป็นสตูดิโอถ่ายภาพพรีเว้ดดิ้งในบรรยากาศสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ฝึกการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง โดยมีคุณวินเป็นเทรนเนอร์คอยแนะเทคนิคแบบมืออาชีพ
ใครที่กำลังมองหาอาชีพสร้างรายได้กับการถ่ายภาพแนวโรแมนติก สามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ได้ หรือถ้าอยากจะพัฒนาตัวเองไปสู่การเป็นช่างภาพมืออาชีพ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์ค ช้อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ บิ๊ก คาเมร่า เช่นนี้ได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บิ๊ก คาเมร่า (BIG CAMERA) ทั้ง 230 สาขาทั่วประเทศไทย หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bigcamera.co.th, Facebook : BIGCAMERACLUB, Instagram : BIGCAMERA_CLUB, Youtube : BIGCameraTV
รูปภาพประกอบจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช้อป “ดิ แอดวานซ์เซด ออฟ พรีเมียม เอ็กซ์พีเรียนซ์ เวิร์คช็อป” ในครั้งนี้