ทีเส็บ จับมือ เอ็นไอเอ พัฒนานวัตกรรมสร้างจุดแข็งไมซ์ไทย ร่วมสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยโดดเด่นด้านนวัตกรรม


ทีเส็บ ผนึก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (เอ็นไอเอ) ร่วมพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับประเทศไทยเป็นผู้นำไมซ์ในเวทีโลก เจาะอุตสาหกรรมไทยแลนด์ 4.0 ผ่านแคมเปญ “INNOVATION THAILAND” เตรียมจัดแสดงโซนนวัตกรรมเด่นประเทศไทยในงานไมซ์ระดับประเทศและระดับโลก หวังสร้างการจดจำภาพลักษณ์ไทยเป็นประเทศโดดเด่นด้านนวัตกรรม ตั้งเป้าผุด “ย่านนวัตกรรม (Innovation District)” ในเมืองไมซ์ซิตี้เพื่อกระจายรายได้สู่ภูมิภาค ควบพัฒนาความสามารถทางนวัตกรรมให้บุคลากรทุกระดับ คาดสร้างมูลค่าเพิ่มให้อุตสาหกรรม เพิ่มจำนวนงานไมซ์ พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่และบุคลากรด้วยนวัตกรรม ผ่านกิจกรรมไมซ์ของประเทศ

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ     กล่าวว่า อุตสาหกรรมไมซ์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมบริการที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สามารถใช้นวัตกรรมเพื่อเป็นเครื่องมือในการเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ต่อยอดด้านการกระจายรายได้และความเจริญออกสู่ทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดย ทีเส็บ มีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาการใช้นวัตกรรมควบคู่กับข้อมูลอัจฉริยะเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้อุตสาหกรรมไมซ์ไทยอย่างยั่งยืนภายในปี พ.ศ. 2565 จึงได้จัดตั้งฝ่ายส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อธุรกิจ (MICE Intelligence and Innovation Department) เพื่อให้บริการด้านข้อมูลและส่งเสริมนวัตกรรมให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือแอพพลิเคชั่นที่จะอำนวยความสะดวกให้กับการจัดงานไมซ์ทั้งในส่วนของผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงาน ส่งเสริมแนวทางการจัดงานด้านนวัตกรรม รวมไปถึงมีบทบาทในการสร้างพันธมิตรในวงการนวัตกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านธุรกิจ ผลักดันให้เกิดการใช้นวัตกรรมเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์

“เพื่อส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ไทยด้วยนวัตกรรม ให้เป็นอุตสาหกรรมตัวอย่างสำหรับการส่งเสริมและพัฒนาการใช้นวัตกรรมและข้อมูลอัจฉริยะ อีกทั้งเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้อุตสาหกรรมไมซ์ไทยอย่างยั่งยืน ทีเส็บ และ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ เอ็นไอเอ (NIA) จึงลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยด้วยนวัตกรรม ให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ที่ใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการจัดงานภายใต้นโยบายอุตสาหกรรมไทยแลนด์ 4.0 พร้อมพัฒนาและกระจายองค์ความรู้ อีกทั้งสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับทุกภูมิภาคทั่วประเทศผ่านการส่งเสริมการตลาด การพัฒนาเมืองไมซ์ซิตี้ รวมถึงบุคลากรและสถานที่จัดงาน”

ภายใต้บันทึกข้อตกลงฯ ดังกล่าว ทีเส็บ และ เอ็นไอเอ มีวัตถุประสงค์และเป้าหมายร่วมกันในการส่งเสริมนวัตกรรมผ่านธุรกิจไมซ์ โดยมีกรอบระยะเวลาการดำเนินงานเบื้องต้นภายใน 5 ปี ผ่านแคมเปญ “INNOVATION THAILAND” ได้แก่ 1) เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ผลักดัน และยกระดับประเทศไทยด้วยนวัตกรรมให้เป็นผู้นำไมซ์ในเวทีโลก (Innovation Promotion) ผ่านเวทีส่งเสริมการตลาดไมซ์ประเทศไทย เช่น งานเทรดโชว์ และโรดโชว์ไมซ์ในและต่างประเทศ 2) เพื่อยกระดับพื้นที่ที่มีศักยภาพผ่านการใช้นวัตกรรม (Innovation District) โดยส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมผ่านแนวทางการพัฒนา “ไมซ์ซิตี้” (MICE City) ก่อให้เกิดการกระจายความเจริญและรายได้สู่ท้องถิ่น โดยใช้อุตสาหกรรมไมซ์ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการสร้างบรรยากาศของย่านเศรษฐกิจและการบริการ และเชื่อมโยงความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนในพื้นที่ ให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันอย่างยั่งยืนบนฐานนวัตกรรม และ 3) เพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถทางนวัตกรรม (Innovation Capability) ให้แก่บุคลากรทุกระดับในอุตสาหกรรมไมซ์ ผ่านหลักสูตร “MICE Academy” ทำให้สามารถนำนวัตกรรมมาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่อุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศได้ต่อไป

ด้าน ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ เอ็นไอเอ (NIA) กล่าวว่า     “เอ็นไอเอ มีการดำเนินงานที่ครอบคลุมการพัฒนานวัตกรรมในหลากหลายด้าน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อบริบทที่สำคัญที่เปลี่ยนแปลงอย่างในปัจจุบัน โดยเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนใน 5 ด้าน ได้แก่ 1. การพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมเพื่อยกระดับทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยี และการบริหารจัดการด้านนวัตกรรมทั้งในระดับเยาวชน อุดมศึกษา ผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น ผู้ประกอบการนวัตกรรมขนาดต่างๆ ผ่านกิจกรรมการฝึกอบรมให้ความรู้ บ่มเพาะ และการสร้างภาวะผู้ประกอบการ 2. การพัฒนาบริษัทนวัตกรรม ด้วยการส่งเสริม สนับสนุน และร่วมรับความเสี่ยงกับผู้ประกอบการนวัตกรรมในการพัฒนานวัตกรรมรูปแบบต่างๆ ผ่านกลไกการสนับสนุนทางการเงิน การให้บริการปรึกษาทางธุรกิจและเทคนิค รวมถึงการขยายผลทางตลาด 3. การลดความเหลื่อมล้ำ โดยอาศัยเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการส่งเสริมการกระจายตัวของโครงสร้างพื้นฐานทางนวัตกรรมไปสู่ภูมิภาคเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างและการเข้าถึงนวัตกรรมให้เป็นไปอย่างทั่วถึง  4. การสร้างการรับรู้ด้านนวัตกรรม สร้างความตื่นตัวด้านนวัตกรรมและสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรมให้เกิดขึ้นในประชาสังคม เพื่อสร้างการรับรู้ การยอมรับ และเกิดการนำนวัตกรรมในหลากหลายด้านไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ และ 5. การพัฒนาความรู้และฐานข้อมูล โดยอาศัยการสำรวจ ศึกษา วิเคราะห์ และประเมินทางวิชาการ เพื่อแสวงหาโจทย์ แนวโน้มและประเด็นการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบความต้องการของประเทศ รวมถึงการสร้างระบบและเครื่องมือการพัฒนาและประเมินผลที่สนับสนุนการดำเนินงานในด้านอื่นๆ ผ่านการพัฒนาสารสนเทศนวัตกรรม

“สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการส่งเสริม สนับสนุน ผลักดัน และยกระดับประเทศไทย ให้เป็นผู้นำไมซ์ในเวทีโลกผ่านแคมเปญ “INNOVATION THAILAND” เพื่อให้เกิดการสร้างภาพลักษณ์ประเทศที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม และเกิดการนำนวัตกรรมมาพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศ เช่น การจัดประชุมองค์กร การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุมนานาชาติ และการจัดนิทรรศการแสดงสินค้า ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วยนวัตกรรมตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาเป็นเครื่องมือผลักดันและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานโลก และก้าวสู่ศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ ซึ่งจะยกระดับความสามารถและศักยภาพด้านนวัตกรรมในพื้นที่ให้มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการพัฒนา “ย่านนวัตกรรม” (Innovation District) เพื่อให้เกิดการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค และการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นด้วยการบูรณาการเชื่อมโยงความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังจะร่วมกันพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมให้แก่บุคลากรทุกระดับในอุตสาหกรรมไมซ์ ผ่านหลักสูตรอบรมต่างๆ ของ “NIA Academy” เพื่อให้เกิดการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สามารถนำนวัตกรรมมาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่อุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศ” ดร.พันธุ์อาจ กล่าวเพิ่มเติม

นายจิรุตถ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีระยะเวลา 5 ปี ซึ่งคาดว่าจะเป็น 5 ปีที่เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย ทั้งในแง่ของการสร้างรายได้ให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ และการพัฒนาบุคลากรที่จะเป็นกำลังสำคัญของการใช้นวัตกรรมได้ต่อไปอย่างยั่งยืน สำหรับโครงการหรือกิจกรรมในช่วงที่ผ่านมาของฝ่ายส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อธุรกิจ ได้แก่ การประกวด SMART MICE Innovation Awards: co-creation camp ที่ Knowledge Exchange Center, กิจกรรม Service Design Workshop ร่วมกับภาคเอกชนเพื่อพัฒนาการใช้นวัตกรรมในธุรกิจไมซ์, โครงการ SMART MICE Innovation Award ส่วนแผนงานในอนาคต อาทิ การจัดทำ MICE Intelligence Website ในเว็บไซต์ของทีเส็บ, การพัฒนา Smart Biz แอพพลิเคชั่นเฟส 2 และการจัดประกวดไอเดียสตาร์ทอัพระดับ Pro-league@ITW ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)”  

 

 

 

งานแรกในความร่วมมือที่จะเกิดขึ้น คือ การจัดเวที “Triple B: Digitalization in Bleisure Business Boom” ส่งเสริมธุรกิจไมซ์ด้วยนวัตกรรม ภายในงาน Startup Thailand 2018 ซึ่งเป็นครั้งแรกของการจับมืออุตสาหกรรมไมซ์กับเครือข่ายสตาร์ทอัพระดับประเทศ เพื่อร่วมกันค้นหาไอเดียใหม่ๆ ต่อยอดการสร้างประสบการณ์แก่นักเดินทางไมซ์ที่เน้นเพิ่ม Digital Service Design และ Innovation เพื่อขับเคลื่อนไปสู่การเป็น Smart MICE ที่ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกยุคดิจิทัล โดยเวทีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ เวลา 15.00-18.00 น. ณ เวที Bouncy ฮอลล์ A ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมงานได้ที่  www.Startupthailand.org

Tags: ทีเส็บ ธุรกิจไมซ์