2 กุมภาพันธ์ 2561 จ.เชียงใหม่: จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และสมาคมโรงแรมไทย ภาคเหนือ ขานรับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ใช้ “ดอกไม้” ยกระดับแบรนด์ของเมือง สานพลังประชารัฐตั้งแต่ระดับจังหวัดถึงผู้ประกอบการรายย่อย ปักธงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นจุดนัดพบแห่งเอเชีย สร้าง Flagship Event ให้เป็นเทศกาลท่องเที่ยวระดับนานาชาติ ภายใต้แบรนด์ เชียงใหม่ บลูมส์ (Chiang Mai Blooms) เทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน
นายพุฒิพงศ์ สิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจสร้างสรรค์และนวัตกรรมคือกำลังขับเคลื่อนประเทศที่สำคัญที่สุด ดังนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล ผนวกกับการบริหารจัดการแบบ “ประชารัฐ” จึงได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ สมาคมโรงแรมไทย ภาคเหนือ พร้อมด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบเชียงใหม่ (TCDC Chiang Mai) สร้างต้นแบบการบริหารจัดการที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลิตนวัตกรรมใหม่เพื่อยกระดับสินทรัพย์เดิมที่มีอยู่ ให้กลายเป็นจักรกลขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเชียงใหม่ โดยเลือกใช้ “ดอกไม้” เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์การท่องเที่ยวของจังหวัดภายใต้แบรนด์ “เชียงใหม่ บลูมส์ (Chiang Mai Blooms) : เทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน”
“จากเดิมที่ มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ เป็นเทศกาลดอกไม้ระดับตำนานของเมือง โด่งดังไปทั่วประเทศ กลายเป็นภาพจำของคนไทยเมื่อคิดถึงเชียงใหม่ในหน้าหนาวเดือนกุมภาพันธ์ ขบวนบุปผชาติและสาวงามกับร่มลายดอกไม้ กลายเป็นสัญลักษณ์ของเชียงใหม่ กุหลาบเวียงพิงค์ ขณะเดียวกันเส้นทางดอกไม้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ยังมีชื่อเสียง รองรับนักเดินทางนับล้านคนทุกๆ ปี คณะผู้จัดงานเล็งเห็นถึงโอกาสในการยกระดับเทศกาลดอกไม้นี้สู่การเป็นงานหลักระดับนานาชาติ (Flagship Event) หรือเทศกาลท่องเที่ยวระดับนานาชาติ ที่สามารถดึงดูดนักเดินทางคุณภาพจากทั่วโลกมาเยือนเชียงใหม่ จึงได้รวบรวมกิจกรรมท่องเที่ยวใดๆ ก็ตามที่มี “ดอกไม้” เป็นองค์ประกอบสำคัญ ทั้งธุรกิจและบริการ ตั้งแต่ที่พัก อาหารการกิน กิจกรรมสันทนาการ เส้นทางท่องเที่ยวต่างอำเภอ สร้างเป็นปฏิทินท่องเที่ยวใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ จากนั้นสร้างแบรนด์ครอบคลุมไว้ด้วยกัน เรียกว่า “เชียงใหม่ บลูมส์ (Chiang Mai Blooms) เทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน” เพื่อให้เป็นจุดนัดพบของเอเชีย ขณะเดียวกันก็พัฒนาแนวคิดการจัดมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ส่งเสริมให้ผู้สร้างสรรค์ขบวนให้ได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ปรับรูปแบบการบริหารจัดการ และสร้างจุดขายใหม่ๆ ให้กับงาน พร้อมต่อยอดองค์ความรู้สู่กิจกรรมอื่นๆเช่น งานออกแบบ การวิจัยพัฒนาพันธุ์ไม้ หรือการค้าการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องต่อไป”
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บได้เข้าร่วมงานนี้ในฐานะหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ทำการตลาดให้ประเทศไทย ส่งเสริมพัฒนาพื้นที่โดยใช้อุตสาหกรรมการประชุมและแสดงสินค้า (MICE) เป็นกลไกสร้างเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ทีเส็บทำงานร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะเมือง MICE city หนึ่งในห้าแห่งของประเทศไทย การเข้าร่วมสนับสนุนงานเชียงใหม่บลูมส์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการยกระดับงานเด่น ที่คัดสรรงานที่สะท้อนอัตลักษณ์เมือง นำมาพัฒนายกระดับให้เป็นฐานงานไมซ์ระดับนานาชาติ สำหรับงานนี้ ทีเส็บเล็งเห็นถึงศักยภาพของงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ นำมาต่อยอด ใช้เทศกาลสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจให้เมือง เป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เมืองเพื่อเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ซึ่งหลายเมืองทั่วโลกใช้เทศกาลเป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเมืองรอง หรือเมืองที่ไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ สำหรับงาน มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับจังหวัดเชียงใหม่ นั้น ถือเป็นงานที่รากฐานจากอัตลักษณ์เดิมของเมืองเชียงใหม่คือกุหลาบเวียงพิงค์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักสามารถพัฒนาให้กลายเป็นจุดดึงดูดใจนักเดินทางนานาชาติได้
“ทีเส็บให้การสนับสนุนโครงการเชียงใหม่ บลูมส์ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ผ่านการจัดเทศกาล โดยได้ริเริ่มทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการยกระดับงาน วางโรดแมปอย่างเป็นระบบ ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในจังหวัดเพื่อให้งานนี้เป็นงานที่ทุกคนมีส่วนร่วม และเป็นเจ้าของ เรามีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับจังหวัด และอำเภอต่างๆ เพื่อใช้งานนี้เป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันยังเชื่อมให้ภาครัฐทำงานกับภาคเอกชน ซึ่งนำโดยสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือ) เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสธุรกิจให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้ และกระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันในรูปแบบประชารัฐ เพื่อสร้างใช้งานเทศกาลนี้เป็นเวทีกิจกรรมที่ต่อยอดไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างฐานองค์ความรู้ อันเป็นการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนโดยมีกิจกรรมไมซ์และงานอีเว้นต์เป็นกลไก โดยในปีแรกตามแผนโรดแมป เริ่มจากการรวบรวมปฏิทินกิจกรรมท่องเที่ยวดอกไม้ที่มีอยู่เดิมในทุกพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ควบรวมกับกิจกรรมใหม่ที่ภาคธุรกิจสร้างสรรค์ขึ้น ทำให้เกิดการขยายเวลาการจัดงานจากเดิม 3 วันในสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ให้กลายเป็นครอบคลุมทั้งเดือน เป็นโอกาสการขายให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาและจับจ่ายในพื้นที่มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีการเชื่อมโยงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มการเงินการธนาคาร ประกัน โทรคมนาคม สายการบิน เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคเข้ามามีส่วนร่วมด้านต่างๆ ขยายเครือข่ายพัฒนารูปแบบการจัดงานโดยจับคู่ ผู้สร้างงาน คือ จังหวัด / อำเภอต่างๆ กับผู้รู้ ได้แก่ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ เชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นงานเชียงใหม่บลูมส์จึงเน้นขยายผลทั้งในเชิงพื้นที่งาน ช่วงเวลาการจัดงาน และขยายโอกาสการมีส่วนร่วม ซึ่งทีเส็บคาดว่าจะเพิ่มทางเลือก สร้างมูลค่าเพิ่มและ เปิดประสบการณ์น่าประทับใจของดอกไม้และจังหวัดเชียงใหม่ ชวนให้นักเดินทางบอกต่อและกลับมาอีกครั้งในปีถัดไป และเมื่อกิจกรรมสิ้นสุดลงทีเส็บจะทำการประเมินผล วางแผนงานในปีต่อไป รวมถึงการทบทวนแผนงานระยะยาวตามโรดแมป เพื่อพัฒนาแนวทางการทำงานเชิงพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องการยกระดับงานเด่นจากอัตลักษณ์ของพื้นที่ ใช้งานเทศกาลเป็นฐานพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมแบบมีส่วนร่วมที่สามารถนำไปเป็นตัวอย่างแก่เมืองอื่น ๆ ได้ต่อไป”
ด้าน นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทย ภาคเหนือ กล่าวว่า พันธกิจหลักของ เชียงใหม่ บลูมส์ คือ การพัฒนาเมืองเชียงใหม่ด้วยสุนทรียภาพและความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้ดอกไม้เป็นสื่อและวาระ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และความภาคภูมิใจให้คนเชียงใหม่ เป็นต้นแบบของเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ จะเห็นได้ว่าดอกไม้ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดนั้น เข้ามามีส่วนอยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ของคนเชียงใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่มจากดอกไม้ ชาดอกไม้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอางค์ เป็นลวดลายในเครื่องแต่งกาย ตลาดดอกไม้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว โรงแรมที่พักต่างประดับประดาดอกไม้เพื่อต้อนรับนักเดินทางด้วยความสดชื่น ถือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่เมืองอื่นเลียนแบบได้ยาก
“เชียงใหม่ บลูมส์ เป็นการผสานความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการรายใหญ่ในจังหวัดเข้ากับแนวความคิดคนรุ่นใหม่ พร้อมเสนอประสบการณ์เบิกบานใจกับไลฟ์สไตล์ที่อบอวลด้วยหมู่มวลดอกไม้ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนเชียงใหม่ จากวัตถุประสงค์ของงานที่ต้องการเปลี่ยนเมืองเชียงใหม่ ด้วยคนรุ่นใหม่ ความคิดใหม่ๆ งานนี้จึงสะท้อนภาพการร่วมมือร่วมใจกันของคนเชียงใหม่ แสดงให้เห็นถึงพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของเมืองได้หากตั้งใจร่วมมือกัน กลุ่มคนกรุงเทพฯ (และนักเดินทางต่างถิ่นที่มีกำลังซื้อ) เพราะเชียงใหม่คือเมืองแห่งความศิวิไลซ์และสุนทรีย์ที่ต้องมาให้ได้ทุกปี และ กลุ่มนักเดินทางต่างชาติ ที่ต้องการให้เกิดความรู้สึกว่าจะต้องมาเชียงใหม่ มาดูดอกไม้ มาสัมผัสวิถีชีวิตสวยงาม สร้างความต้องการมาเชียงใหม่สักครั้งให้ได้ในชีวิต”
สำหรับกิจกรรมนั้นประกอบไปด้วย การชมความงามของธรรมชาติ มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 42 ภายใต้แนวคิด “หมื่นแสนมวลบุปผา งามตาทั่วเวียงพิงค์” สำหรับปีนี้มีการพัฒนารูปแบบเพื่อนำเสนอขบวนบุปผชาติให้งดงามแปลกตา กว่าทุกปี, Flower routing ชมดอกไม้ตามเส้นทางการท่องเที่ยวสำคัญ, กิจกรรมปั่นไปในสวนดอกไม้ (Bike with Flower) ชมแปลงปลูกดอกไม้เพื่อการค้าของคนในชุมชน, กิจกรรมเปิดฟ้า...ตามหาดาว (NARIT Star Party) ณ อุทยานดาราศาสตร์เชียงใหม่ อ.แม่ริม สัมผัสประสบการณ์ท้องฟ้าที่งดงาม อบอวลไปด้วยกลิ่นไอของดอกไม้ พร้อมเก็บภาพประทับใจกับ “ดอกกุหลาบแห่งเอกภพ” ที่จะตราตรึงใจทุกคนไปอีกนาน
การดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมในเชียงใหม่ที่พร้อมใจกันเติมเสน่ห์ให้บริการด้วยดอกไม้ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การเช็คอินถึงเช็คเอ้าท์ อาทิ เครื่องดื่มต้อนรับจากดอกไม้ การ์ดต้อนรับ ดอกไม้ต้อนรับ และเมนูพิเศษ ฯลฯ Bloom Everyday at TCDC ซึ่งแปลงโฉมห้องสมุดเป็นสวนดอกไม้ ตลอดจนร้านอาหารและคาเฟ่ทั่วเชียงใหม่ที่ประดับประดาด้วยมวลหมู่ดอกไม้ กิจกรรมเวิร์คช้อปกับผู้ประกอบการรายย่อยและคนรุ่นใหม่ในชุมชน อาทิ Blooming x Tea by อองเต x DFD Flower studio, กิจกรรม 'ดอกไม้' จากไม้แกะสลักฝีมือคุณ ณ บ้านถวาย สองฝั่งคลอง, กิจกรรม Chiang Mai Craft Week 2018 ณ Hobbyist Studio โครงการสตาร์ อเวนิว 3 (ถนนมหิดล) ที่จะได้พบกับเวิร์คช้อปงานทำมือมากมายจากผู้ผลิตตัวจริง และกิจกรรม Flower on fabric by RISSARA การย้อมสีและทําลวดลายบนผ้าจากดอกไม้ใบไม้ที่หาได้ในท้องถิ่นด้วยเทคนิค Ecoprint ณ โครงการบ้านข้างวัด
พร้อมกันนี้ยังมี กิจกรรมไฮไลท์ ได้แก่ Flower on the Table อาหารค่ำมื้อพิเศษบนโต๊ะที่ยาวที่สุดในประเทศไทย 720 ที่นั่ง โดยสมาคมโรงแรมไทย ภาคเหนือ ได้รวมตัวแสดงพลังและความคิดสร้างสรรค์ เนรมิตเมนูดอกไม้สุดอลังการ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จำหน่ายบัตรท่านละ 2,500 บาท รายได้ส่วนหนึ่งบำรุงกิจกรรมสาธารณกุศล และ กิจกรรม Flower in the Air นั่งบอลลูนชมความงดงามของสวนพฤกษศาสตร์และเมืองเชียงใหม่แบบ 360 องศา รับลมเย็นยามอรุณรุ่ง พร้อมรับประทานอาหารเช้ามื้อพิเศษอวลกลิ่นดอกไม้ ณ สวนทวีชล อ.ดอยสะเก็ด
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลและดูตารางกิจกรรมต่างๆ ได้ทาง www.ChiangMaiBlooms.com, facebook fanpage: Chiang Mai Blooms หรือค้นหาจากแฮชแทค #chiangmaiblooms ในทุกช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค