ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ เผยความสำเร็จการเป็นช้อปปิ้งมอลล์รักษ์โลก คว้ารางวัลดีเด่นอาคารเขียวในไทย และรองชนะเลิศอันดับสองแห่งเอเชียต่อจากประเทศสิงคโปร์ พร้อมเดินหน้าสานต่อความสำเร็จสู่การเป็นแลนด์มาร์ค “Modern ECO Shopping Mall” ของไทย ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อีกทั้งเพื่อเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ด้านอาคารประหยัดพลังงาน
นางสุนันทา สมบุญธรรม ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์ “รักษ์โลก” ทั้งการอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมเพื่อสังคม แต่กลายเป็น DNA สำคัญของหลายหน่วยงานที่ใช้ในการปลูกฝังองค์กร ให้เห็นถึงความสำคัญและเกิดการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทหน้าที่การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ประเทศ และโลก อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมทางการตลาดที่สำคัญ เพราะไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของการใช้บริการหรือการซื้อผลิตภัณฑ์นั้นๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ “ศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้า” ถือเป็นกลุ่มที่มีการใช้พลังงานสูงสุดเนื่องจากเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ต่างหันมาปรับเปลี่ยนรูปแบบองค์กรของตนให้สอดรับกับเทรนด์ดังกล่าว เช่นเดียวกับศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่การก่อตั้งศูนย์การค้าฯ ภายใต้แนวคิด “ศูนย์การค้ารักษ์โลก หรือ Modern ECO Shopping Mall” โดยผลสำเร็จล่าสุด คือการได้รับรางวัลดีเด่น ด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทอาคารสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน อาคารเขียว (Green Building ) จากการประกวด Thailand Energy Awards 2016 จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน และรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทอาคารสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน อาคารเขียว (Green Building )จากการประกวด Asean Energy Awards 2016 ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาแก้ไขปัญหาเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังขององค์กร
“กลยุทธ์ของความสำเร็จในครั้งนี้คือ “อาคารเขียว (Green Building)” เป็นการออกแบบอาคารแบบกระจายตัว พร้อมทั้งการกำหนดตำแหน่งการวางอาคาร ให้มีกระแสลมธรรมชาติไหลผ่านตัวอาคารและพื้นที่เปิดของศูนย์การค้า (Open-Air) ได้ตลอดทั้งปี และ นวัตกรรม (Innovation) คือการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการก่อสร้าง อย่างเช่น กระจก Low E++ ช่วยลดปริมาณการแผ่รังสีความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร ประกอบกับตัวอาคารสร้างด้วยอิฐก่อ 2 ชั้น เพื่อลดความร้อนจากด้านนอกช่วยให้ด้านในอาคารเย็นขึ้น และภายในตัวอาคารทั้งหมดจะถูกควบคุมและตรวจสอบด้วยนวัตกรรมการจัดการพลังงาน “Energy Management Control System” ที่จะคอยคำนวณปริมาณการใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่และแต่ละช่วงเวลาของวัน เพื่อลดการใช้พลังงานเกินความจำเป็น” นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมในการจัดการของเสียและบำบัดน้ำเพื่อการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการนำนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี (Nano Technology) มาใช้ในโถปัสสาวะชายเพื่อลดการใช้น้ำแบบ 100% ประหยัดน้ำ 138,700 ลิตร/ปี รวมถึงการใช้นวัตกรรมการบำบัดน้ำเสียจากการล้างมือและการล้างจานในศูนย์อาหาร สามารถนำมาใช้รดน้ำต้นไม้ได้ถึง 70,000 ลิตร ต่อวัน และการสร้างบ่อกักเก็บน้ำฝนใช้แทนน้ำประปาได้ถึง 5.9% พร้อมด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยติดตั้งแผงโซล่าเซลเพื่อจ่ายไฟฟ้าให้แสงสว่างยามค่ำคืนหลังปิดให้บริการ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้ถึง 9,865.8 kWh ต่อปี รวมไปถึงการนำระบบ Re Generate มาควบคุมการทำงานของลิฟท์ และระบบ Weight Sensor มาใช้ควบคุมบันไดเลื่อนโดยสาร ให้สามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อการทำงานได้ในตัวเองสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 20%
นางสุนันทา กล่าวต่อว่า “แนวคิดด้านการอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมถือเป็นเรื่องสำคัญ และกลายเป็นเทรนด์การตลาด ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคนี้ไปแล้ว ถึงแม้ในปัจจุบันจะเป็นยุคดิจิตอล แต่ผู้บริโภคก็ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก เทรนด์การใช้ถุงผ้าในการจับจ่ายซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต การปั่นจักรยานแทนการใช้รถยนต์ การใช้รถสาธารณะแทนการใช้รถส่วนตัว รวมไปถึงการเลือกใช้บริการหรือการเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ของผู้บริโภคไม่ได้พิจารณาแค่คุณสมบัติของสินค้าหรือบริการที่ตอบสนองความต้องการเพียงอย่างเดียว แต่พิจารณาไปถึงนโยบายขององค์กรนั้นๆ ว่ามีความรับผิดชอบต่อสังคมในด้านต่างๆ เป็นอย่างไร เพราะการเลือกสินค้าหรือบริการ เปรียบเสมือนการได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมสิ่งดีๆ ที่องค์กรนั้นได้ปฏิบัติด้วย
โดยศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ จะยังคงเดินหน้าจัดหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมต่างๆ มาใช้ภายในศูนย์การค้าฯ ให้เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และการมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการอนุรักษ์พลังงาน จนเกิดเป็นจิตสำนึกในการลงมือปฏิบัติ ไม่ใช่ปฏิบัติเพราะเป็นเพียงหน้าที่ เพื่อมุ่งหวังให้ศูนย์การค้าฯ กลายเป็นแลนด์มาร์ค “Modern ECO Shopping Mall” ของประเทศไทย และที่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมของเยาวชนและประชาชนทั่วไป”