MyBagSpa และ McMichael เกาะกระแสตลาดสินค้าลักซ์ชูรี่เติบโตต่อเนื่องในไทย จับมือปั้น “มาย แบ็ค คาบิเน็ต (MyBagCabinet)” เป็นคาบิเน็ตหรูเก็บรักษาและยืดอายุการใช้งานสินค้าแบรนด์เนมใบแรกในไทย เสริมฟังก์ชั่นควบคุมความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะกับการถนอมผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง มาพร้อมดีไซน์คลาสสิค เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหรู เจาะลูกค้าไฮเอ็นด์และผู้นิยมแบรนด์เนมโดยเฉพาะ
นางสาวรณันธร พลชาติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แบ็ค รีพับลิค (ประเทศไทย) จำกัด จากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ MyBagSpa Thailand ซึ่งดำเนินธุรกิจ บริการ การดูแลคืนชีวิต และ ความสวยงาม ให้แก่กระเป๋า รองเท้า เครื่องหนัง แบรนด์เนม ต่างๆ ให้กับลูกค้าระดับไฮเอ็นด์ และผู้ที่นิยมการใช้สินค้าแบรนด์เนมมากว่า 3 ปี ทำให้พบเห็นปัญหาในด้านการเก็บรักษาสินค้าเหล่านี้ และพบว่าสินค้ากระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนมโดยเฉพาะเครื่องหนังนั้น จะมีปัญหามากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยจากการศึกษาถึงสาเหตุพบว่าส่วนใหญ่เกิดจากสภาพอากาศของประเทศไทยที่มีความร้อนชื้น ส่งผลต่อคุณภาพและรูปลักษณ์ของสินค้ามีการเปลี่ยนสภาพไปค่อนข้างเร็วกว่า อาทิ กระเป๋าที่เสียทรงอันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ได้ ปัญหาเชื้อรา กลิ่นอับ อันเกิดจากความชื้น สีของหนังที่เฟดลงไม่สดสวยเหมือนเดิม แม้แต่รองเท้าก็พบปัญหากาวที่หลุดร่อนเร็วกว่าปกติ จึงมีแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเก็บรักษาและยืดอายุการใช้งานของสินค้าแบรนด์เนมดังกล่าว โดยจับมือกับ McMichael Furniture ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกเฟอร์นิเจอร์สไตล์อเมริกันคลาสสิค เพื่อพัฒนาและผลิต “มาย แบ็ค คาบิเน็ต (MyBagCabinet)” เป็นคาบิเน็ตหรูเพื่อเก็บรักษาและยืดอายุการใช้งานสินค้าแบรนด์เนมใบแรกในไทย เพื่อเจาะตลาดลูกค้าผู้นิยมสินค้าแบรนด์เนมโดยเฉพาะ
“จากการให้บริการและคลุกคลีกับกลุ่มลูกค้าไฮเอ็นด์มาตลอดกว่า 3 ปี พบว่าปัญหาการดูแลรักษาสินค้าแบรนด์เนมทั้งกระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับต่างๆ ให้คงความสวยงามเหมือนใหม่ตลอดเวลานั้น เป็นปัญหาสำคัญอันดับต้นๆ ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ก็มักจะไม่มีเวลาในการบำรุงรักษาด้วยตัวเอง ประกอบกับสภาพอากาศของบ้านเราก็ส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของผลิตภัณฑ์เครื่องหนังได้ง่าย จึงคิดว่า MyBagCabinet น่าจะตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง มีตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยปัจจัยของคุณภาพและฟังก์ชั่นการใช้งาน หรือเน้นการสะสมเป็นหลัก ถือเป็นช่องทางและโอกาสทางการตลาดที่น่าจะเติบโตได้ จากกระแสความนิยมในสินค้าลักซ์ชูรี่ในบ้านเรา ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นางสาวรณันธร กล่าว
ด้าน นายพงษ์พิทักษ์ วงษ์ดีไทย กรรมการบริหารด้านผลิตภัณฑ์และการออกแบบ บริษัท โปรมาร์เก็ตติ้ง โฮม แอนด์ เด็คคอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ McMichael Furniture กล่าวว่า จากประสบการณ์ด้านการออกแบบเฟอร์นิเจอร์สไตล์อเมริกันคลาสสิคมากว่า 20 ปี ซึ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์ McMichael ขึ้นมาในปี 2002 โดยตลาดส่งออกบริษัทอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเป็นหลัก นอกจากนั้น คือ ญี่ปุ่น อิตาลี ไอร์แลนด์ เกาหลี และลิธัวเนีย จึงได้ออกแบบ MyBagCabinet ออกมาในสไตล์หรูหราคลาสสิค ให้สามารถอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นงามภายในบ้าน และสามารถวางประดับตกแต่งไว้ได้อย่างสวยงามในทุกมุมมอง และยังถูกออกแบบมาให้ดูหรูหรา ช่วยขับให้กระเป๋าที่วางอยู่ภายในดูโดดเด่นขึ้น
“เพื่อให้ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นในด้านการดูแล บำรุงรักษา ถนอม และยืดอายุการใช้งานของสินค้า โดยเฉพาะเครื่องหนัง กระเป๋า รองเท้า ต่างๆ เราจึงสร้าง Value Added ให้กับ MyBagCabinet โดยการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อควบคุมความชื้นภายใน มีเกจ์วัดอุณหภูมิและความชื้น ให้ทราบถึงสถานะภายในคาบิเน็ต ได้ตลอดเวลา รวมถึงการเลือกใช้หลอดไฟแบบ LED เพื่อลดความร้อนสะสมภายใน และเสริมด้วยระบบล็อคประตูเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน”
MyBagCaninet เปิดตัวด้วย 3 คอลเล็คชั่นแรก Renee, Stella และ Tiffany ที่มีสไตล์โดดเด่นแตกต่างกันไป
“Renee Bag Cabinet” ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะในยุค Rococo เน้นความหรูหราคลาสสิค ด้วยการนำ เส้นสายลวดลายที่อ่อนช้อยจากธรรมชาตินำมาถ่ายทอดทั้งรูปทรงและการแกะสลักลายลงบนไม้อย่างประณีตบรรจง ใช้เทคนิคการทำสีไม้ที่ให้ดูเคร่งขรึมผสมผสานกับการปัดไฮไลท์สีทองเพื่อให้ลายแกะสลักของไม้นั้นโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
“Stella Bag Cabinet” นำเอาสไตล์ร่วมสมัย (Contemporary) มาประยุกต์ใช้ผ่านกระบวนความคิดจนออกมาเป็นรูปแบบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดของคิ้วโค้งเว้าต่างๆ ของรูปทรงที่เรียบง่าย การใช้สีโทนน้ำตาลที่เน้นโชว์ลายไม้อย่างเด่นชัด ประกอบกับการใช้กระจกสีชาทองพ่นลายด้านหลัง
และ “Tiffany Bag Cabinet” จากความเรียบง่ายสู่การสร้างสรรค์ในแบบที่เรียบหรู สื่อถึงความพิถีพิถันด้วยการใช้สีขาว Pearl White กับการใช้วัสดุเส้นใยทอจากธรรมชาติ (Raffia) ซึ่งเป็นวัสดุนำเข้าจากต่างประเทศมาทำสีทองและการเพิ่มหมุดสีเงินโดยรอบ รวมถึงการบุผ้าภายในตู้ เลือกใช้หน้าบานกระจกที่ไม่มีขอบเพื่อให้ภายในดูเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
สำหรับแผนงานด้านการทำตลาด ไปยังกลุ่มเป้าหมาย นางสาวรณันธร กล่าวเพิ่มเติมว่า MyBagSpa มีฐานลูกค้าที่นิยม และเห็นคุณค่าของกระเป๋า หรือแอคเซสซอรี่ต่างๆ และมาใช้บริการให้ MyBagSpa ดูแลอยู่เป็นประจำ เราจึงคิดว่าจะสามารถต่อยอด โดยการนำเสนอให้ลูกค้าเห็นว่า การมี MyBagCabinet จะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสินค้าเหล่านี้ได้มาก ส่วน McMichael เอง ก็มีฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มนิยมเฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้อยู่แล้ว การเพิ่มฟังก์ชั่นในการเป็นคาบิเน็ตสำหรับเก็บรักษากระเป๋า จึงเป็นเสมือนการสร้าง Value Added ให้กับผลิตภัณฑ์ จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าการจัดจำหน่ายในปีแรกประมาณ 300 ใบ และ ปีต่อๆ ไปคาดว่า จะเพิ่มเป็น 2-3 เท่ากำลังการผลิต พร้อมวางแผนในการทำการตลาดผ่านโชว์รูมของ McMichael และ MyBagSpa ยังจะมีการเข้าร่วมงานเทรดโชว์ในระดับประเทศ อาทิ ล่าสุดที่ได้นำไปจัดแสดงในงาน TIFF 2015 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวต่างชาติเป็นอย่างดี และการจัดกิจกรรมเพื่อการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายไฮเอ็นด์แบบเจาะกลุ่มโดยเฉพาะ อาทิ การจัดกิจกรรมจิบน้ำชาเพื่อพูดคุยถึงตัวผลิตภัณฑ์ การเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์จริงแบบใกล้ชิด รวมถึงการทำ Luxury Display ในห้างสรรพสินค้า เป็นต้นขณะเดียวกันในตลาดต่างประเทศก็ถือเป็นเป้าหมายการขยายตลาดในอนาคตภายในระยะเวลา 2-3 ปี อย่างแน่นอน
ผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์ สามารถชมได้ที่โชว์รูม Mc Michael ชั้น 2 Urbaan Home อาคาร SC Place ถ.รัชดาภิเษก โทร 02-693-8998, Mc Michael พระราม 9 โทร 02-731-6951, 02-731-6952 และ MyBagSpa สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 02 646 1229