ในบริบทของสังคมสมัยใหม่ที่ทำให้รูปแบบการแสดงออกของวัยรุ่นไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่อำนวยโอกาสให้พบปะผู้คนหน้าใหม่ได้ทุกวัน เครื่องมือสื่อสารที่ทำให้ระยะทางไกลแค่ไหนกลายเป็นใกล้ได้เสมอ ศิลปินมากมายทั้งไทยและเทศที่กลายเป็นไอดอลในดวงใจจนอยากจะปรับวิถีชีวิตได้ดำเนินตามเส้นทางของไอดอลเหล่านั้น แม้แต่ความรักที่มีการแสดงออกอย่างเปิดเผย คำว่า “ฉันรักเธอ” เป็นคำพูดที่เกือบจะติดปากไปเสียแล้ว ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นจะไปถึงระดับไหน แต่ก็ถูกตีความไปแล้วว่าคือความรัก ซึ่งแม้แต่เจ้าตัวเองบางทีก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าสิ่งที่รู้สึกวาบหวามในใจนั้นเป็นเพียงแค่ความชอบ หรือ รู้สึกรักอย่างแท้จริง
จัซ (JUZZ) นิตยสารแจกฟรีสำหรับนักเรียนมัธยมปลายเล่มแรกในประเทศไทย ที่ปวารณาตัวขอเป็นสื่อกลางที่ทำให้ผู้ใหญ่เข้าใจวัยรุ่น-วัยรุ่นเข้าใจตนเอง-สังคมเข้าใจซึ่งกันและกัน ผลิตโดย บริษัท แม็คเอ็ดดูเคชั่น จำกัด ได้จัดกิจกรรม JUZZ “รัก คิด ลึก - รักให้นานๆ รักให้ดีๆ ต้องคิดให้ลึกซึ้ง” ขึ้นเพื่อสร้างเวทีให้เกิดการแลกเปลี่ยนที่ว่าด้วยเรื่องของความรักส่งเสริมให้วัยรุ่นรู้จักรักอย่างฉลาดและรักให้เป็น เนื่องในโอกาสเดือนแห่งความรัก โดยมีศิลปินขวัญใจวัยโจ๋อย่าง อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา หรือ ต้า – พาราด็อกซ์, ยิปโซ - รมิตา มหาพฤกษ์พงษ์ และ นพ.พีรพล ภัทรนุธาพร จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น หรือคุณหมอนักเขียนนามปากกา "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" มาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนนิยามแห่งความรักของแต่ละท่าน พร้อมกันนี้ยังดำเนินรายการโดย โต๋นแตร์ – ทินกร ภูวศักดิวงศ์
คุณพัทธนันท์ ศิริสิงห์อำไพ หรือพี่เจี๊ยบ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร จัซ (JUZZ) กล่าวถึงมุมมองความรักในแบบฉบับของบทบาทคุณแม่ว่า “พี่ผ่านช่วงเวลาที่มีรักแรกเมื่อนานมาแล้วตั้งแต่สมัยที่สื่อสารกันทางจดหมาย โปสการ์ด และการใช้โทรศัพท์บ้านคุยกัน แม้จะเติบโตจนผ่านการมีครอบครัวมา แต่ได้เข้าใจถึงความรักที่แท้จริงเมื่อตอนที่มีลูก เมื่อเวลาที่เรารักใครจะรู้สึกว่าเราตัวเล็กลง คนที่เรารักจะตัวใหญ่ขึ้น เกิดความรู้สึกที่ดีให้กับเขา อยากยินดีในทุกๆ เรื่องที่เขามีความสุขและประสบความสำเร็จ และรู้สึกทุกข์ไปกับเขาเมื่อเขามีความทุกข์ เมื่อรู้สึกแย่ อยากทำทุกๆ อย่างเพื่อให้เขาไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น และอย่างที่คุณพ่อคุณแม่รู้กันว่าปัจจุบันความรู้สึกที่เด็กๆ เข้าใจว่ารักนั้น กับเรื่องเพศเป็นเรื่องที่แยกกันไม่ออก สิ่งเหล่านี้คือวงจรชีวิตที่เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถึงช่วงวัยรุ่นฮอร์โมนก็จะมา ในฐานะที่เป็นแม่ก็จะเลือกวิธีการสอนอย่างเหมาะสม ทำให้ลูกรู้ว่าสามารถพูดคุยเรื่องนี้กับเราได้ โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันและความปลอดภัย เพราะเมื่ออนาคตลูกยังอีกยาวไกล ของคนอื่นก็เช่นกันลูกเราควรรู้สึกแบบนี้เพื่อที่จะปฏิบัติต่อผู้อื่นได้อย่างที่ความต้องการและความถูกต้องเกิดควบคู่กันไป จะไม่ทำเสมือนว่าเรื่องนี้พูดคุยด้วยไม่ได้ ตอบแบบตรงๆ ธรรมดา เข้าใจง่าย อะไรที่ตอบไม่ได้ก็จะบอกว่าขอไปหาข้อมูลมาก่อน เราต้องให้ลูกของเรารู้และเข้าใจก่อนเพื่อที่จะเตรียมรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้”
นพ.พีรพล ภัทรนุธาพร จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น หรือ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" นามปากกาที่นักอ่านส่วนใหญ่รู้จักกันดี ได้ยกตัวอย่างภาพยนตร์ที่น่าจะให้ข้อคิดกับวัยรุ่นได้อย่าง รักจัดหนัก และ Love Rosie ว่า “ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องนี้น่าจะเป็นตัวอย่างสอนใจวัยรุ่นได้ดี ที่ทำให้รู้ว่าเพศสัมพันธ์หรือเซ็กซ์นั้นไม่ใช่การเล่นปั่นแปะแล้วไม่มีผลอะไรตามมา แต่แท้ที่จริงแล้วจะมีผลตามมาอีกหลายเรื่องมากหากไม่มีการป้องกันหรือประมาท ไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร การติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องให้ความรู้ ทำให้เกิดความเข้าใจและรู้จักระมัดระวังตัวกัน อย่าคิดเอาเองง่ายๆ ว่าเราพร้อมที่จะรับผิดชอบสิ่งเหล่านั้นที่จะเกิดขึ้น เพราะเมื่อถึงเวลาจริงๆ แล้วไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้ว่าเรื่องรักกับเรื่องเซ็กซ์นั้นจะเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน ผู้หญิงและผู้ชายมีเหมือนกันหมด แต่จะแตกต่างกันที่การใช้ความรู้สึกและเหตุผล ผู้ชายอาจจะไม่ได้ใช้ความรักสำหรับการมีเซ็กซ์ แต่ผู้หญิงอาจจะใช้เซ็กซ์เพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก สุดท้ายแล้วเราต้องถามตัวเองด้วยว่าจริงๆ แล้วเราต้องการสิ่งใด หากผู้หญิงปฏิเสธแล้วผู้ชายเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างว่าไม่ได้รักฉันจริง ตรงนี้ก็ต้องพิจารณาว่าผู้ชายเขารักเราจริงหรือเปล่าถึงไม่แคร์ความรู้สึกเราเลย เรื่องนี้ผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียที่จะไม่ได้อะไรกลับมา ก็ต้องคิดทบทวนให้ดี”
ด้านนักแสดง พิธีกร และดีเจสาวอย่าง ยิปโซ - รมิตา มหาพฤกษ์พงษ์ กลับมีมุมมองของความรักที่ต่างออกไป เพราะเธอรู้สึกว่า “ความรักเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลามากในการให้คำนิยาม ทุกวันนี้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างฉาบฉวย ไม่ว่าจะเป็นตื่นเต้น ใจหวิว คิดถึง น่าจะเรียกว่าความชอบมากกว่าความรัก ส่วนตัวคิดว่าตราบใดที่เรายังไม่สามารถรักอย่างถูกวิธีเป็นก็คงหาคำตอบมาตอบไม่ได้ว่าความรักคืออะไร แต่สำหรับเรื่องรักกับเซ็กซ์นั้น เป็นเรื่องที่แยกจากกันโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่ว่าการที่ฉันรักเธอคือการอยากมีอะไรกับเธอ เพราะการอยากมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องของความต้องการล้วนๆ การใช้คำว่ารักเป็นเพียงข้ออ้างที่ถูกเอาเข้ามาใช้ในสถานการณ์ตรงนั้น หากคนสองคนจะคบกันก็ต้องจริงใจต่อกัน แยกแยะเรื่องนี้ให้ออกก่อนว่าเรากำลังรู้สึกอย่างไรต่อกัน ปัญหาทุกอย่างอาจจะถูกยุติลงตั้งแต่แรกหากเราไม่เข้าใจกันผิดว่าความรักต้องแลกมาด้วยเซ็กซ์ ความสัมพันธ์ของคนเราที่ถูกตีค่าให้เสมือนการแลกเปลี่ยนไม่น่าจะเป็นความรักที่แท้จริง ตรงนี้อยากให้น้องผู้หญิงมองให้ออกและอย่าหยิบยื่นสิ่งมีค่าของเราไปให้คนอื่นเพียงแค่แลกมาด้วยความสบายใจ เพราะท้ายที่สุดคนที่ทุกข์ที่สุดก็จะเป็นตัวน้องๆ เอง”
แม้แต่มุมมองของศิลปินหนุ่มที่มีแฟนเพลงอยู่ทั่วประเทศอย่าง อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา หรือ ต้า – พาราด็อกซ์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีโอกาสเจอะเจอคนมากหน้าหลายตา หรือมีโอกาสเลือกมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป ก็ยังมองว่าความรักสำหรับผู้ชายอย่างเขานั้นเกิดขึ้นได้ยาก “เป็นคนมีรักแรกช้ามาก กว่าจะมีแฟนก็จบมหาวิทยาลัยแล้วเพราะเราเป็นผู้ชายที่ชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ อยากมีชีวิตผจญภัยไปกับเพื่อนๆ ก่อน เลยเริ่มต้นช้า และอาจจะเป็นคนที่ใช้คำว่ารักได้ยากด้วย ผมคิดว่าความรู้สึกแบบที่พอโดนเนื้อตัวกันแล้วตื่นเต้น ห่างไปก็คิดถึงมาก เห็นเขายิ้มมาแล้วก็ละลายอยู่ตรงนั้น แบบนี้เป็นการใช้ความรู้สึกที่ฟุ่มเฟือย และเป็นแค่ความชอบมากกว่าความรัก การจะมีความรักที่จริงจังนั้นจะต้องใช้เวลาพิจารณา ค่อยๆ ดูเพื่อให้เห็นว่านี่คือเพชรแท้ เป็นความรู้สึกโดยเนื้อแท้ของตัวเรา อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ ใช้เวลาในการเรียนรู้กันและกัน เมื่อเรียนรู้กันได้แล้วก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่มีความกังวล ไม่ต้องกลัวเรื่องอะไร ตรงจุดนี้คงไม่สามารถมาหาอะไรเปรียบเทียบเพื่อให้ใกล้เคียงกับความรักของตัวเองได้ ส่วนเรื่องระหว่างความรักกับเซ็กซ์ของผู้หญิงและผู้ชายนั้นก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง เราเป็นเพศที่มีสัญชาตญาณดิบมากกว่าผู้หญิง ผู้ชายกับเรื่องเซ็กซ์นั้นเป็นเพียงความต้องการล้วนๆ วัยรุ่นหลายคนยังรู้สึกว่าหากไม่คล้อยตามไปในสถานการณ์เหล่านี้ จะเกิดการสูญเสียตามมา ซึ่งเข้าใจผิด การที่เราอยู่แบบคนโสดก็สามารถมีความสุขได้ เราสามารถอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องไปพึ่งพาคนอื่นเพื่อให้รู้สึกดี เราจะมีเวลาไปพัฒนาสิ่งต่างๆ ในชีวิตให้ดีขึ้น เกิดมุมมองใหม่ ความรู้สึกใหม่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเราเมื่อมันดีแล้ว จะดึงดูดให้คนดีๆ เข้ามาหาเอง ผู้หญิงสมัยใหม่ต้องฉลาดที่จะปฏิเสธให้เป็น และเลือกที่จะมีความสุขได้แบบที่ไม่เอาชีวิตตัวเองไปฝากไว้ที่ความรู้สึกคนอื่น”
ทั้งหมดนี้คือทัศนคติและมุมมองของผู้ที่ผ่านประสบการณ์ความรักกันมาแล้ว และมาร่วมถ่ายทอดให้น้องๆ สมาชิกนิตยสารจัซ และบรรดาแฟนคลับศิลปินที่มาร่วมงานได้เข้าใจการใช้ความรู้สึกรักอย่างฉลาด รักให้เป็น เพื่อให้เป็นคนที่มีคุณค่า การที่เราจะรักใครได้นั้นเราต้องรู้จักรักตัวเองก่อน เมื่อรักตัวเองได้เป็นก็จะเกิดการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ในชีวิต และไม่คิดที่จะทำอะไรด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ เป็นวัยรุ่นยุคใหม่ที่หยุดสร้างความสัมพันธ์เชิงแลกเปลี่ยนเพียงไม่กี่ครั้งแต่ต้องเปลี่ยนชีวิตตัวเองไปตลอดชีวิต ติดตามมุมมองความรัก และอีกหลากหลายมิติชีวิตวัยรุ่นในยุคปัจจุบันได้ทางนิตยสาร JUZZ นิตยสารที่จะทำให้ผู้ใหญ่เข้าใจวัยรุ่น วัยรุ่นเข้าใจตนเอง สังคมเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยแจกฟรีในโรงเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศ