By a publicist 3 ธันวาคม 2563
3 ธันวาคม 2563, กรุงเทพฯ - Time Out Bangkok ผนึกพันธมิตรภาครัฐและเอกชนจัดงาน Awakening Bangkok 2020 การกลับมาอีกครั้งของเทศกาลแสงไฟประจำปีกรุงเทพฯ เนรมิตชุมชนเก่าในย่านสร้างสรรค์ เจริญกรุง-บางรัก-ตลาดน้อย วันที่ 11–20 ธันวาคมนี้ (บางชิ้นจัดแสดงถึง 4 ม.ค. 64) ภายใต้ธีม RE/WIND/FAST/FORWARD ชวนทุกคนมองกลับหลัง ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น เรียนรู้ ตริตรอง เพื่อข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากและเปิดประตูก้าวไปสู่สิ่งใหม่ให้ไกลกว่าเดิม หวังกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเพิ่มการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในชุมชนช่วงปลายปี
นายพงศ์สิริ เหตระกูล กรรมการบริหาร Time Out Bangkok และ Festival Director งานเทศกาล Awakening Bangkok กล่าวว่า จากการจัดงาน “Awakening Bangkok” สองครั้งที่ผ่านมา ในปีแรกมีผู้เข้าชมงานกว่า 75,000 คน และเพิ่มขึ้นกว่า 60% เป็นกว่า 120,000 คน ในปีที่สอง แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการจัดงานได้เป็นอย่างดี ทั้งยังได้รับผลตอบรับที่ดีจากทั้งศิลปิน นักออกแบบ และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาร่วมชมงาน สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน เกิดการขยายตัวของคอมมูนิตีศิลปินและ นักออกแบบไทยได้แสดงผลงานออกสู่สายตาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้วันนี้งาน Awakening Bangkok 2020 เติบโตกลายเป็นงานเทศกาลแสงไฟประจำปีของกรุงเทพฯ ที่หลายคนรอคอยไปแล้ว และปีนี้กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ระหว่าง วันที่ 11 ธันวาคม 2563 – 4 มกราคม 2564 โดยเป็นการเนรมิตชุมชนเก่าย่านสร้างสรรค์ (Creative District) เจริญกรุง-ตลาดน้อย ให้มีสีสันยามค่ำคืน
“ในขณะที่ทุกคนยังอยู่ท่ามกลางห้วงวิกฤตแห่งโรคระบาดที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก เราต่างรู้กันดีว่าเกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมมากเพียงไร แต่ก็ต้องร่วมกันหาทางออก เพื่อก้าวสู่วันข้างหน้าต่อไป งาน Awakening Bangkok 2020 จึงจัดขึ้นภายใต้ธีม RE/WIND/FAST/FORWARD สะท้อนให้เห็นถึงห้วงเวลาที่ยากลำบากจากสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) ชวนทุกคนมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น เรียนรู้ ตริตรองอย่างเข้าใจ เพื่อเปิดประตูก้าวไปสู่สิ่งใหม่ได้เร็วและไกลกว่าเดิม โดยอีเวนต์ในเชิงสร้างสรรค์นั้น นอกจากจะเป็นสิ่งที่ช่วยจรรโลงความรู้สึกของผู้คนแล้ว ยังกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมและเศรษฐกิจของชุมชนได้เป็นอย่างดี สำหรับสามแลนด์มาร์คใหญ่ของงาน ได้แก่ บริเวณหน้าอาคารไปรษณีย์กลาง Warehouse 30 และโรงภาพยนตร์ปรินซ์ โดยมีกิจกรรมเด่น ทั้งด้านการแสดงประติมากรรมแสงสีโดยศิลปินชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงนักศึกษา รวมทั้งหมดเกือบ 40 ชิ้นงาน การแสดงดนตรีจากศิลปินดัง และการออกร้านสินค้าที่น่าสนใจ”
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในประเทศแล้ว ยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่มีความเกื้อหนุนกัน สนับสนุนให้เกิดการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งมีส่วนในการช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงร่วมสนับสนุนเทศกาล “Awakening Bangkok 2020” อีกหนึ่งงานที่จะช่วยกระตุ้นทั้งการท่องเที่ยวภายในประเทศ และดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงที่จัดงานได้เป็นอย่างดี โดยท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 การจัดงานในครั้งนี้ ก็ได้เน้นมาตรฐานความปลอดภัยบนพื้นฐานของยุคความปรกติใหม่ (New Normal) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว ให้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุขในช่วงปลายปี
นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB กล่าวว่า บทบาทหลักของ TCEB คือการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้ในปีนี้เราจะให้ความสำคัญกับการจัดงานในรูปแบบไฮบริด (Hybrid event) มากขึ้น แต่สำหรับบางอีเวนต์ การได้มาอยู่ในสถานที่จริงย่อมสร้างประสบการณ์ให้ผู้ชมได้มากกว่า เช่นเดียวกับงาน Awakening Bangkok ที่กลายเป็นงานเทศกาลแสงไฟประจำปีของกรุงเทพฯ ไปแล้ว โดยการสนับสนุนงานครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมการจัดอีเวนต์ด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่มีมูลค่าสูง สอดรับกับนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ (Economic Impact) ในภาพรวม ทั้งในแง่ของการจ้างงาน การเช่าอุปกรณ์สำหรับจัดงาน เกิดการหมุนเวียนของการบริโภค ตลอดจนภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นจากการจัดงาน โดยจากการศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจ Awakening Bangkok 2019 ในปี 2562 สร้างการใช้จ่ายรวม ของผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานตลอดการจัดงาน 10 วัน เป็นมูลค่า 192.99 ล้านบาท
โดยการสนับสนุนครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีต่างๆ ในประเทศ เพื่อกระตุ้นอุปสงค์และอุปทานทางด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สร้างโอกาสทางธุรกิจในการจัดการกิจกรรมและการตลาดรูปแบบต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
ส่วน นางสาวมนฑิณี ยงวิกุล ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารเเละการตลาด สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA กล่าวว่า ทุกวันนี้ในหลายประเทศใช้ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การพัฒนาประเทศไปสู่ทิศทางใหม่ โดยใช้ต้นทุนจากองค์ความรู้เดิมร่วมกับความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อต่อยอดและเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าและบริการเดิม นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจมหาศาล โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันอย่างโควิด-19 การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยพื้นฐานของความรู้ นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยขับเคลื่อนผู้คนและประเทศชาติให้ก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้
CEA มีพันธกิจในการผลักดันให้เกิดการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ อันได้แก่ บุคลากรสร้างสรรค์ (Creative People) ธุรกิจสร้างสรรค์ (Creative Business) และการพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Place) ซึ่งงาน Awakening Bangkok 2020 ตอบโจทย์ของภารกิจทั้ง 3 ด้านนี้ การร่วมจัดงานจึงเป็นอีกทางหนึ่งที่สนับสนุนภารกิจดังกล่าว ส่งเสริมให้ภาพของพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative District) ของย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย ที่มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรม เอกลักษณ์วิถีชีวิต เป็นการเชื่อมโยงเรื่องราวของย่าน ผู้คน ธุรกิจดั้งเดิม และนักท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าและส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง
นอกจากนั้น การสนับสนุน Awakening Bangkok 2020 ยังช่วยเปิดพื้นที่ให้ศิลปินและนักออกแบบชาวไทย มีโอกาสแสดง ผลงานออกสู่สาธารณะ และเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มีความสุขกับเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะถึง CEA จึงได้สนับสนุนการจัดแสดงบางชิ้นงานบางส่วน ขยายไปจนถึงต้นปีหน้า คือ วันที่ 4 มกราคม 2564
ด้าน นางสาวจรินี วงศ์กำทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์จำเป็นต้องอาศัยความเชื่อมโยงกันของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน บริษัทฯ เห็นความสำคัญของเหล่าศิลปินและนักออกแบบไทยที่มีความสามารถในการต่อยอดผลงานสร้างสรรค์และสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญา “KEEP WALKING” ของแบรนด์จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ที่สร้างแรงบันดาลใจและประสบการณ์ใหม่ๆ ในการก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเองและผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ จนขึ้นแท่นอันดับหนึ่งสก๊อตช์ วิสกี้ ที่สามารถครองใจคนทั่วโลกและรวมถึงในประเทศไทยมาทุกยุค เราจึงให้การสนับสนุนการจัดงาน Awakening Bangkok 2020 อันเป็นกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่หลากหลายในครั้งนี้
โดยภายในงาน ทางแบรนด์ได้นำเอาแคมเปญ “KEEP WALKING ให้ไกลกว่าเดิม” เพื่อเฉลิมฉลอง 200 ปี จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ซึ่งรวบรวมผลงานความคิดสร้างสรรค์จาก 3 พาร์ตเนอร์มานำเสนอในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ การร่วมกับแบรนด์ TKW แบรนด์สตรีตแวร์น้องใหม่จาก TAKARA WONG นำเสนอเสื้อผ้าคอลเลคชันพิเศษ ‘Walk Forward’ สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสะท้อนความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาผ่านงานดีไซน์ อีกทั้งยังร่วมมือกับ Guss Damn Good (กัสส์ แดมน์ กู๊ด) แบรนด์ไอศกรีมสัญชาติไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของแบรนด์ผ่านรสชาติใหม่ของไอศกรีมที่ชื่อว่า Keep Walking โดยใส่ส่วนผสมใหม่ๆ ที่แตกต่างจากกรอบเดิมๆ ให้เข้ากับ Gold Label ถือเป็นครั้งแรกของการสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในรูปแบบไอศกรีม และปิดท้ายด้วยการร่วมมือกับ Vesper Cocktail Bar บาร์ชื่อดังที่การันตีด้วยอันดับที่ 62 จาก World’s 50 Best Bars 2020 และรางวัลทรงเกียรติระดับโลกมากมาย มาผสมผสานมิกซ์เซอร์รสชาติใหม่ในรูปแบบกระป๋องครั้งแรก ต่อยอดให้กับคนรุ่นใหม่ในการรังสรรค์ค็อกเทลได้อย่างง่ายๆ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงประติมากรรมไฟสุดยิ่งใหญ่ และการฉายภาพยนตร์สารคดี The Man Who Walked Around The World ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ โรงภาพยนตร์ปรินซ์ พิเศษกว่านั้นปีนี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ยังได้ร่วมกับบาร์หลายแห่งในย่านเจริญกรุงเนรมิตเครื่องดื่มพิเศษ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีสถานที่แฮงเอาต์หลังจากการเดินชมเทศกาลอีกด้วย
สำหรับงาน “Awakening Bangkok 2020” ภายใต้ธีม RE/WIND/FAST/FORWARD ได้รับการสนับสนุนการจัดงานจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA และบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) ร่วมด้วย Peppermint Field (เปปเปอร์มินต์ ฟิลด์) Prudential (พรูเดนเชียล) และ BGC (บางกอกกลาส)
ทั้งนี้ Awakening Bangkok 2020 ยังได้รับการอนุเคราะห์สถานที่จาก Prince Theatre Heritage Stay (โรงภาพยนตร์ ปรินซ์), Bangrak Riverview (บางรัก ริเวอร์วิว), ATT19, River City Bangkok (ศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก), Patina Bangkok, Continuum Warehouse และศูนย์การค้า ICONSIAM (ไอคอนสยาม)
งาน Awakening Bangkok 2020 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 ถึง 20 ธันวาคม 2563 (บางชิ้นจัดแสดงถึง 4 มกราคม 2564) ณ สถานที่สำคัญในย่านเจริญกรุง ตั้งแต่โรงภาพยนตร์ปรินซ์ อาคารไปรษณีย์กลาง ไปจนถึงบ้านโซว เฮง ไถ่ ย่านตลาดน้อย โดยผู้ชมจะได้พบการจัดแสดงผลงานศิลปกรรมไฟกว่า 36 ชิ้น จาก 25 ศิลปินที่ผ่านการคัดเลือกจากทีม Time Out Bangkok พร้อมด้วยกิจกรรมเติมสีสันยามค่ำคืนอีกมากมาย อาทิ มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังจากค่าย What the Duck เมนูพิเศษจากหลากหลายร้านอาหารทั่วย่านที่รังสรรค์มาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ร่วมด้วยป็อปอัปบาร์อีกหลายจุด ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.timeout.com/bangkok และเฟซบุ๊ก Time Out Bangkok และ Time Out – กรุงเทพฯ