ปั่นสู้ร้อนแบบไม่ “ฮีทสโตรก (Heat Stroke)”


สำหรับนักปั่น หรือคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานแล้ว ไม่ว่าฝนจะตก หรือแดดจะออกก็ไม่ย่อท้อ แต่ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ การปั่นจักรยานท่ามกลางสมรภูมิแสงพระอาทิตย์อันร้อนระอุของเมืองไทยก็อาจทำให้การปั่นไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก

นายสุหฤท สยามวาลา หนึ่งในผู้ชื่นชอบกีฬาปั่นจักรยาน และเจ้าของร้าน อูโก้ ไบก์ บูทีค (UGO BIKE Boutique) คาเฟ่ของคนรักจักรยาน บอกว่า “ในช่วงอากาศร้อนๆ สิ่งที่นักปั่นมักจะเจอก็คืออาการ Heat Stress ที่จะเกิดขึ้นเมื่อสภาวะแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ความร้อนจากแสงแดดที่ทำให้อุณหภูมิอากาศสูงขึ้น จะกีดขวางการระบายความร้อนออกจากร่างกายของนักปั่น และยังไปกระตุ้นให้ระบบควบคุมกลไกกล้ามเนื้อทำงานหนักแบบไม่รู้ตัว ซึ่งอาจนำไปสู่อาการไม่พึงประสงค์อย่าง Heat Stroke หรือที่เราเรียกกันว่า ลมแดด ดังนั้น หากต้องฝึกปั่นในสภาวะที่อากาศร้อน เราต้องหาเทคนิคหรือตัวช่วยในการลดอุณหภูมิของร่างกาย เพื่อป้องกันอาการลมแดด”

เริ่มต้นที่ เสื้อปั่นจักรยาน ถือเป็นตัวช่วยแรกที่นักปั่นทุกคนควรคำนึงถึง โดยเฉพาะการปั่นจักรยานในฤดูร้อน ซึ่งวิธีการเลือกควรเลือกตามประเภทที่เหมาะสมกับการปั่นจักรยาน แต่ในหน้าร้อนแบบนี้ควรเลือกแบบ “Relaxed” เน้นการสวมใส่แบบสบาย และควรเน้นขนาดที่ใหญ่กว่ารูปร่างของเราเล็กน้อย ไม่รัดรูปจนเกินไป ต่อมาดูที่ใยผ้าควรเป็นผ้าที่ผลิตจากใยโพลีเอสเตอร์ (Polyester) 100%  ซึ่งใยผ้าชนิดนี้จะไม่ซับเหงื่อจึงทำให้เหงื่อสามารถไหลออกจากตัวเสื้อได้ทันที และช่วยระบายอากาศ ลดความร้อนสะสมในร่างกาย ที่สำคัญคือช่วยป้องกันรังสียูวีถึง 50% 

 

ผ้าเย็น” (Cool Towel) ฟังดูแสนจะธรรมดา แต่ปัจจุบันผ้าเย็นถูกพัฒนาให้เป็นมากกว่าผ้าเย็นทั่วไปด้วยนวัตกรรมคูลลิ่ง ที่จะทำให้ผ้ามีความเย็นขึ้นมาทันทีหลังชุบน้ำ และจะคงความเย็นไปเรื่อยๆ จนกว่าผ้าจะแห้ง ส่วนวิธีการใช้ก็เหมือนกับผ้าทั่วไป สามารถนำมาเช็ดบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ต้องการผ่อนคลายความร้อน หลังจากใช้เสร็จแล้วก็เพียงนำมาทำความสะอาดด้วยสบู่ บิดพอหมาดและเก็บใส่กล่องได้เลยโดยไม่ต้องตากให้แห้ง

สเปรย์เพิ่มความเย็นบนเสื้อผ้า จัดเป็นไอเท็มมาแรงในฤดูกาลนี้ และกลายเป็นของใช้จำเป็นที่ต้องมีก่อนออกไปปั่น เพราะสามารถช่วยคลายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่พ่นสเปรย์ลงบนเสื้อผ้า เนื่องจากตัวสเปรย์มีส่วนผสมของแก๊สไนโตรเจน ซึ่งเป็นแก๊สที่มีคุณลักษณะเย็น ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่เป็นอันตราย อีกทั้งได้เพิ่มกลิ่นหอมของเมนทอล ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ที่ร่างกายต้องการความเย็น ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างการ เดินป่า ปีนเขา เป็นต้น 

 

ครีมกันแดด ถือเป็นตัวช่วยสำหรับนักปั่นจักรยานในทุกฤดู เพราะแสงแดดเมืองไทยนั้นร้อนแรง ทำลายผิวเราได้โดยไม่รู้ตัว แต่วิธีการเลือกซื้อครีมกันแดด อันดับแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ ความสามารถในการป้องกันรังสียูวีเอและยูวีบี ระดับ SPF 50+ ขึ้นไป และต้องมีส่วนผสมที่ช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิว เพื่อทำให้ผิวรู้สึกสบาย คลายร้อน ที่สำคัญคือต้องเป็นสูตรกันน้ำและซึมเข้าผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพราะหากเป็นสูตรไม่กันน้ำ เนื้อครีมข้น เวลาเหงื่อไหลจะผสมกับตัวครีม เมื่อเข้าตาจะทำให้แสบตาและอาจทำให้การปั่นจักรยานเกิดอุบัติเหตุได้ 

 

ส่วนอีกหนึ่งอุปกรณ์กันแดดตัวสำคัญที่จะช่วยป้องกันรังสียูวีได้เกือบ 100% คือ ปลอกแขน โดยต้องเลือกชนิดที่ผลิตจากเส้นใยแอร์โรว์คูล (Aerocool) เพราะจะมีส่วนผสมของใยไนลอนและโพลีเอสเตอร์ ช่วยระบายความร้อนและเพิ่มความเย็นบริเวณแขนได้เป็นอย่างดี และต้องเลือกการทอแบบไร้ตะเข็บ เพราะจะไม่ระคายผิว สวมใส่สบาย

รวมถึง ผ้าอเนกประสงค์ ไอเท็มต้องมี เพราะสามารถนำมาดัดแปลงเป็นอุปกรณ์ป้องการแสงแดดได้หลากหลาย ทั้งโพกศีรษะ ปิดจมูก ป้องกันแสงแดด ฝุ่นละออง และมลพิษต่างๆ ควรเลือกผ้าอเนกประสงค์ต้องพิจารณาจากคุณสมบัติต่างๆ ได้แก่ ต้องมีความยืดหยุ่นสูง สามารถระบายความร้อนและความชื้นได้ดี มีคุณสมบัติแห้งเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น เป็นต้น 

 

ไอเท็มสุดท้ายเพื่อให้การปั่นราบรื่นท่ามกลางอุณหภูมิปรอทแตก ขี้ผึ้งป้องกันการเสียดสี เนื่องจากการปั่นจักรยานจะทำเกิดเหงื่อในส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณข้อพับ ขาหนีบ ซึ่งหากปั่นไปเรื่อยๆ ความเค็มของเหงื่อและการเสียดสีจะทำให้เกิดเป็นแผลได้ ดังนั้นนักปั่นจึงต้องทาขี้ผึ้งก่อนการปั่นทุกครั้ง เพื่อ ลดการเสียดสี ซึ่งปัจจุบันขี้ผึ้งมีให้เลือกหลากหลาย แต่นักปั่นต้องพิจารณาถึงส่วนผสมมากหน่อยเพื่อป้องกันการแพ้ โดยดูจากส่วนผสมต้องผลิตจากธรรมชาติ และต้องไม่มีส่วนผสมของมิเนรัลออย (Mineral Oil) และลาโนลิน (Lanolin) ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว 

 

สำหรับนักปั่นที่สนใจตัวช่วยให้การปั่นจักรยานสนุกยิ่งขึ้น หรือกำลังมองหาจักรยานคู่ใจ สามารถแวะไปช้อปได้ที่ อูโก้ ไบก์ บูทีค (UGO BIKE Boutique) ศูนย์รวมจักรยานและอุปกรณ์จักรยานแบบครบวงจร อาคารซี ชั้น 1 ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ โทร. 02-108-6000 และติดตามรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/thanyapark

Tags: ธัญญาพาร์ค ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ อูโก้ ไบก์ UGO BIKE จักรยาน ปั่นจักรยาน