“จินตนาการ” ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะจินตนาการของเยาวชน ที่ผู้ใหญ่ควรช่วยกันผลักดันความคิดสร้างสรรค์เหล่านั้นให้กลายเป็นความจริง เพราะในอนาคตจะสามารถพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้มากมาย เช่นเดียวกับ 4 ของขวัญสุดจินตนาการจาก 4 เยาวชน ที่ช่วยกันคิดขึ้นมาในงานวันเด็กที่ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ด้วยกิจกรรมส่งเสริมจินตนการและความคิดสร้างสรรค์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อมอบให้กับประเทศไทย และเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ใหญ่ใจดีที่ช่วยกันจัดงานวันเด็ก
เริ่มต้น ด.ญ.สริตา สารบัน หรือ น้องบีม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนภูมิสมิทธ์ เล่าว่า “สำหรับของขวัญที่อยากมอบให้ประเทศไทยคือ “เครื่องบินจัมโบ้” ที่สามารถจุผู้โดยสารได้ครั้งละมากๆ เพราะเครื่องบินถือเป็นยานพาหนะที่ใช้สำหรับการโดยสารที่สำคัญ มีความสะดวก รวดเร็ว สามารถใช้เดินทางไปทำธุรกิจ หรือไปท่องเที่ยวได้ทุกที่ทั่วโลก อีกทั้งถ้าประเทศไทยมีเครื่องบินเพิ่มมากขึ้นก็จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเจริญก้าวหน้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้เด็กๆ เองก็สามารถจะนั่งเครื่องบินไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเปิดโลกการเรียนรู้ ทำให้เห็นวัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนในประเทศอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น และสามารถนำสิ่งที่พบเห็นกลับมาพัฒนาประเทศของเราได้อีกด้วย”
ด้าน ด.ญ.อริญ บรรพจุลจินดา หรือ ปุยฝ้าย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนปิยะฉัตร เล่าถึงของขวัญชิ้นพิเศษที่อยากมอบให้กับประเทศไทยว่า “โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบธรรมชาติและต้นไม้มาก ที่บ้านจะปลูกต้นไม้เยอะ พอคุณพ่อคุณแม่มีเวลาว่างก็จะชวนกันปลูกต้นไม้ รวมถึงผักสวนครัวที่สามารถรับประทานได้ภายในบ้าน เช่น ผักกาดหอม พริก และผลไม้อย่าง มะม่วง เป็นต้น
ดังนั้นของขวัญชิ้นสำคัญที่อยากจะมอบให้กับประเทศไทยคือ “ต้นไม้และธรรมชาติ” เพราะต้นไม้จะช่วยดูดมลพิษทำให้อากาศสะอาด ที่สำคัญคือ สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนที่โลกของเรากำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน และอยากให้พวกเราทุกคนช่วยกันรักษาต้นไม้ที่มีอยู่ ช่วยกันปลูกให้มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถ้าหากหนูโตขึ้นก็จะขอเป็นอีกหนึ่งคนที่จะช่วยรณรงค์ให้คนหันมาปลูกป่า ปลูกต้นไม้กันเยอะๆ”
ต่อด้วยของขวัญจากจินตนาการสุดล้ำของหนุ่มน้อย น้องอะเดย์ หรือ ด.ช.ณัฏฐพัชร วัชรภูมิพิทักษ์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสุวรรณภูมิ เล่าว่า “สิ่งที่อยากมอบให้กับประเทศไทย คือ นวัตกรรม “การโคลนนิ่งมนุษย์” เพราะโดยส่วนตัวแล้วอยากมีฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกับตัวเอง เวลาทำกิจกรรม หรือเล่นกีฬาต่างๆ ที่ต้องทำเป็นคู่ เช่น แบดมินตัน ปิงปอง ฟุตบอล ก็จะสามารถทำได้ และที่สำคัญคือยังสามารถช่วยกันติวหนังสือ และช่วยกันทำการบ้านได้อีกด้วย”
ปิดท้ายด้วย น้องปันปัน หรือ ด.ช.อีรภัทร์ นาคอ่อน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสุวรรณภูมิ เล่าว่า “ของขวัญที่จะมอบให้กับประเทศไทยคือ “จรวด” ที่สามารถเหาะออกไปนอกโลกได้ เพราะจากที่ได้เรียนมาในห้องเรียนนั้น นอกจากโลกที่เราอาศัยอยู่แล้ว ยังมีจักรวาลที่ประกอบไปด้วยดวงดาวอีกมากมาย ที่รอการสำรวจและการออกไปค้นหาพื้นที่ใหม่ๆ ที่มนุษย์สามารถไปอยู่ได้คล้ายกับโลกใบนี้ เพื่อถ่ายเทจำนวนประชากรจากโลก เนื่องจากปันจุบันจำนวนประชากรบนโลกของเรามีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน”
จินตนาการของเยาวชนถือเป็นเรื่องสำคัญ และไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นการวาดภาพอนาคตให้กับประเทศไทย แต่จินตนาการเหล่านี้จะเป็นความจริงไปได้มากน้อยขนาดไหน ต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้ใหญ่เป็นแรงสำคัญในการช่วยผลักดันให้ความรู้และสานความฝันเหล่านี้ให้กลายเป็นความจริง ซึ่งจินตนาการเหล่านี้อาจจะกลายเป็นนวัตกรรมสำคัญที่ช่วยพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญอย่างยั่งยืนในอนาคตก็เป็นไปได้