อเล็กซ์ เฟซ (Alex Face) หรือ นายพัชรพล แตงรื่น ศิลปินแนวสตรีทอาร์ต แนวกราฟฟิตี้สายเลือดไทยแท้ ผู้ผ่านการรังสรรค์ความสวยงามบนผืนผนังข้างทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเทคนิคการพ้นสีสเปรย์ จนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ร่วมแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ในฐานะพสกนิกรชาวไทย ผ่านผลงานศิลปะบนกำแพงชิ้นสำคัญ ภายใต้แนวคิด “ในหลวงในดวงใจ” ซึ่งจะจัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ในงานเทศกาลเที่ยวพิพิธภัณฑ์ตอนกลางคืนครั้งพิเศษ “Night at the Museum (ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม) ในรัชกาลที่ ๙” ตั้งแต่วันที่ 16-18 ธันวาคม 2559 ณ มิวเซียมสยาม
นายพัชรพล แตงรื่น เล่าถึงผลงานชุดดังกล่าว ว่า “สำหรับคอนเซ็ปต์ของผลงาน “ในหลวงในดวงใจ” เป็นการตีความหมายที่ตรงและชัดเจน คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เปรียบเสมือนดั่งศูนย์กลางที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยทุกคน ดังนั้นผลงานที่นำเสนอออกมาทั้ง 2 ภาพ สร้างสรรค์ขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ เพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านมอบให้แก่คนไทยทั่วประเทศ โดยใช้เทคนิคการสร้างผลงานด้วยการพ้นสีสเปรย์ในสไตล์ที่ถนัด
ผลงานชิ้นแรก “เด็กในชุดกระต่าย” เป็นการนำเสนอเรื่องราวโดยใช้ภาพผลงานที่ถือเป็นคาแลคเตอร์ของตัวเอง คือภาพของเด็กผู้หญิงในชุดกระต่าย ซึ่งผลงานดังกล่าวจะแสดงให้เห็นถึงการร่วมถวายความอาลัยต่อการจากไปพระองค์ท่าน ที่สะท้อนอารมณ์ด้วยการใช้เทคนิคแสงและเงา ที่เกิดจากแสงเทียนและสื่อถึงความรู้สึกด้วยใบหน้าของเด็กน้อย
ผลงานชิ้นที่สอง “แผ่นดินรัชกาลที่ 9” นำเสนอออกมาให้เห็นถึงความเป็นแผ่นดินทองของเมืองไทย ที่อุดมสมบูรณ์ เต็มเปี่ยมไปด้วยรวงข้าวสีเหลืองทอง อันเกิดจากพระราชกรณียกิจทางด้านการเกษตร ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จช่วยเหลือในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย พร้อมทั้งส่งเสริมอาชีพเกษตรกรไทย โดยเฉพาะชาวนาซึ่งถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ด้วยการให้ความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้ และช่วยเหลือประเทศชาติให้มีความเจริญรุ่งเรือง
นายพัชรพล เล่าต่อว่า “พระองค์ท่านทรงเป็นอัครศิลปิน และพระองค์มักจะสอนคนไทยเสมอว่า เราควรทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ดังนั้นในฐานะของศิลปินคนไทยคนหนึ่ง ก็จะเดินตามรอยคำสอนของพระองค์ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของศิลปินในการเป็นผู้สะท้อนเรื่องราวของสังคมในแง่มุมต่างๆ พร้อมเก็บบันทึกเรื่องราวของยุคสมัย ให้อยู่สืบต่อไปในรุ่นลูกหลาน”
นอกจากนี้ภายในงานยังมีผลงานภาพวาดชิ้นต่างๆ อีกกว่า 25 ผลงาน ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยน้องๆ นักเรียน, นักศึกษา และกลุ่มประชาชน อีกทั้งยังมีนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน อันได้แก่ ส่วนนิทรรศการในรัชกาลที่ ๙ นำเสนอนิทรรศการและวิดีทัศน์บอกเล่าความรู้สึกและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพสกนิกรชาวไทย รวมไปถึงแรงบันดาลใจในการดำรงชีวิตที่ได้จากพระองค์ท่าน จนก่อเกิดเป็นความสุข ความสำเร็จ และความเจริญ ส่วนการจัดแสดง ร่วมย้อนรำลึกถึงพระองค์ท่านผู้ซึ่งเป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทยมาอย่างยาวนาน ผ่านของที่ระลึกและเรื่องราวต่างๆ โดยได้มีการเปิดโอกาสให้ประชาชนคนไทยได้ส่งของที่ระลึกที่แสดงถึงความจงรักภักดี ในโอกาสต่างๆ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวัตถุจัดแสดง และ ส่วนกิจกรรมบนเวทีหลัก จัดกิจกรรมตลอดทุกค่ำคืน อาทิ การฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ การแสดงดนตรีบทเพลงพระราชนิพนธ์ การเสวนาเรื่องราวความประทับใจจากคำบอกเล่าของผู้ถวายงานใกล้ชิด การทำโคมไฟที่ระลึกจากภาพฉลุลายพระบรมสาทิสลักษณ์ พร้อมชมการสาธิตวิธีการทำเครื่องเสวยทรงโปรด