SYMC เผยผลประกอบการ 9 เดือนปี 2565 มีกำไรสุทธิ 125.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิปกติ 74.1 ล้านบาท (หลังหักรายได้อื่นจากการคืนค่าธรรมเนียม USO เพียงครั้งเดียวเมื่อไตรมาส 3 ปี 64) ซึ่งการเติบโตที่แข็งแกร่งนี้ ส่งผลให้สร้างรายได้ถึง 1,269.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายที่แข็งแกร่งจากลูกค้าองค์กรทั้งภายในประเทศ และการเชื่อมต่อบริการออกไปยังต่างประเทศ
นายอเล็กซ์ โลท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมชั้นนำหรือ SYMC กล่าวว่า ธุรกิจโดยรวมของซิมโฟนี่ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงการเปิดประเทศส่งผลให้ผู้คนหรือภาคธุรกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แม้ว่าจะมีปัจจัยที่มีผลกระทบบางประการ อาทิ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก ค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อและสถานการณ์ทางการเงินทั่วโลกที่ยังคงมีความท้าทาย แต่บริษัทฯ ยังเดินหน้าเติบโตได้ตามเป้าหมายในปี 2565 ด้วยการรักษาการขยายตัวเพิ่มขึ้นของรายได้และการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก และเชื่อมั่นว่ารายได้จากการให้บริการเชื่อมต่อการสื่อสารจะเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนบริษัทฯ ในการขยายฐานลูกค้าและสามารถตอบสนองความต้องการการเชื่อมต่อข้อมูลและการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มากขึ้น ควบคู่ไปกับการเร่งให้ความสำคัญกับการนำระบบคลาวด์มาใช้อีกด้วย
“ในไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 4.0% หรือเท่ากับ 437.0 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 46.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิปกติ 25.8 ล้านบาท (หลังหักรายได้อื่นจากการคืนค่า USO หรือค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคมเพียงครั้งเดียว เป็นจำนวน 31.7 ล้านบาทเมื่อไตรมาส 3 ปี 2564) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงยอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง จากลูกค้าองค์กรทั้งภายในประเทศและการเชื่อมต่อบริการออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มของความต้องการใช้งานบริการที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการปรับตัวของธุรกิจที่เข้าสู่รูปแบบดิจิทัลในปัจจุบันและอนาคต”
นายอเล็กซ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้ลงทุนอย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาในการขยายพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้นรวมถึงการปรับปรุงคุณภาพโครงข่ายโดยปรับเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีใหม่ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพื่อใช้แทนระบบโครงข่ายเดิมทั้งหมด การขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของทิศทางธุรกิจในระยะยาวเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของโครงข่ายที่แข็งแกร่ง และเชื่อถือได้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอนาคต เนื่องจากหลายองค์กรจำเป็นต้องก้าวสู่การดำเนินงานที่ไร้รอยต่อแต่มีประสิทธิภาพ ซึ่งล้วนต้องการโครงข่ายคุณภาพสูงรวมถึงการนำระบบคลาวด์มาใช้งาน ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่นจึงต้องการสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดจากการเชื่อมต่อโครงข่ายที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพ ควบคู่ไปกับการให้บริการด้านดิจิทัลโซลูชั่น คลาวด์โซลูชั่นและบริการด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ร่วมกับพันธมิตรพันธของบริษัทฯ เพื่อการบริการที่ครบครันให้กับลูกค้า
ทั้งนี้ ในด้านการบริหารงานบริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการในระดับ "ดีเลิศ" (Excellent) หรือ 5 ดาว ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 อย่างต่อเนื่องจากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CRG) ของสถาบันกรมการบริษัทไทย (IOD) และการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสำเร็จของบริษัทในการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน